วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2556

ผลไม้ตระกูล "เบอร์รี่" ถนอมสายตา Gen S

<< ผลไม้ตระกูล “เบอร์รี่” ถนอมสายตา .. Gen S >>








มีงานวิจัยในต่างประเทศพบว่า ผลไม้ที่มีสารอาหารที่ช่วยในเรื่อง ของสายตามากที่สุด คือ ผลไม้ในตระกูล “เบอร์รี่” ทั้งหลาย เช่น สตรอเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ แบล็คเคอร์แรนต์ โช้คเบอร์รี่ อาซาอิเบอร์รี่ เอลเดอร์เบอร์รี่ บอยเซ็นเบอร์รี่ ฮัคเคิลเบอร์รี่ และบิลเบอร์รี่ หรือบลูเบอร์รี่ ที่หลายคนชอบรับประทาน

ในส่วนของ “บิลเบอร์รี่” นั้น มีข้อมูลว่าถูกจัดให้เป็นผลไม้เพื่อสุขภาพมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากนักบินของอังกฤษสังเกตว่า การรับประทาน “บิลเบอร์รี่” ทำให้ความสามารถในการมองเห็นในเวลากลางคืนดีขึ้น และทำให้อาการเมื่อยล้าของดวงตาจากการใช้งานนานๆ ลดน้อยลง

ต่อมาได้มีการทำวิจัยเกี่ยวกับ “บิลเบอร์รี่กับดวงตา” และพบว่าใน “บิลเบอร์รี่” มีสาร “แอนโธไซยานิน” ซึ่งเป็นสารไบโอฟลาโวนอยด์ที่มีสีแดงม่วงจนไปถึงน้ำเงิน มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระสูงเมื่อเทียบกับผักและผลไม้อื่นๆ

จึงช่วยป้องกันดวงตาจากการทำลายของอนุมูลอิสระ แถมยังช่วยป้องกันเลนส์แก้วตาถูกทำลาย หรือขุ่นมัว อันเป็นสาเหตุของการเกิดโรคต้อกระจก และจอประสาทตาเสื่อมด้วย

 


 
ที่น่าสนใจอีกอย่าง คือมีผลการวิจัยพบว่า สาร “แอนโธไซยานิน” ในบิลเบอร์รี่ ช่วยป้องกันเส้นเลือดฝอยจากการถูกอนุมูลอิสระทำลาย ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวานขึ้นตา ต้อหิน และต้อกระจกได้ หากควบคุมดูแลเบาหวานให้ดี

นอกจากนี้ สาร “แอนโธไซยานิน” ยังช่วยป้องกันอาการอ่อนล้าของตา ช่วยให้สายตาทำงานดีขึ้นในทีมืดหรือที่มีแสงน้อย ทั้งยังช่วยเสริมสร้างการสังเคราะห์สารคอลลาเจน เพิ่มความแข็งแรงให้กับผนังหลอดเลือดฝอย จึงเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบไหลเวียนเลือด

**ตัวเลขล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า คนไทยไม่น้อยกว่า 14 ล้านคนมีสายตาผิดปกติ ส่วนหนึ่งมาจากการใช้สายตามากเกินไป รวมไปถึงผลกระทบที่เกิดจากการใช้งานคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ IT ทั้งหลายที่มีจอเป็นส่วนประกอบ

กลุ่มที่มีปัญหามากที่สุด คือกลุ่มที่เรียกว่า Gen S หรือ Generation of Screen ซึ่งมีไลฟ์สไตล์เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีจอภาพ ไม่ว่าจะเป็นจอคอมพิวเตอร์ จอแท็บเล็ต จอมือถือ จอโทรทัศน์

ว่ากันว่ากลุ่ม Gen S เป็นกลุ่มใหญ่ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาในเรื่องของสายตามากกว่าคนกลุ่มอื่นๆ เพราะใช้เวลามากกว่า 80% ของชีวิตประจำวันกับการใช้คอมพิวเตอร์ ในการทำงาน ท่องอินเตอร์เน็ต รวมทั้งการใช้มือถือดูหนัง ฟังเพลง ถ่ายภาพ เล่นเกมส์ แชทหาเพื่อน

งานวิจัยทางการแพทย์หลายประเทศระบุตรงกันว่า แสงสว่างจากหน้าจออุปกรณ์เหล่านี้เป็นอันตรายต่อดวงตาและสายตา โดยเฉพาะหากเป็นจอมือถือและแท็บเล็ตที่มีตัวหนังสือขนาดเล็ก ต้องอาศัยการเพ่งและจ้องเป็นเวลานานๆด้วยแล้ว จะทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานหนักยิ่งขึ้น เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ก่อให้เกิดความเสื่อมของสายตาก่อนวัยอันควร**

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก คอลัมน์ “สมาร์ทไลฟ์” นสพ.ไทยรัฐ วันที่ 27 เม.ย. 56