วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สามารถดักจับไขมัน

ไคโตซาน ผลิตจากสาร ไคติน ซึ่ง มีโครงสร้างคล้ายกับเซลลูโลส จัดเป็นใยอาหารชนิดหนึ่ง ไคโตซาน มีคุณสมบัติในการแลกเปลี่ยนประจุกับสารอื่นได้ รวมถึงมีคุณสมบัติในการก่อเจลเมื่อละลายในกรด กล่าวคือ เมื่อ ไคโตซาน ละลายในกระเพาะอาหารซึ่งมีความเป็นกรดแล้ว จะให้ประจุบวกสูง ประกอบกับการพองตัว มีลักษณะเป็นเจล ที่สามารถดูดจับไขมันซึ่งมีประจุลบ ทำให้ไขมันไม่ถูกย่อย จึงไม่ถูกดูดซึมและถูกขับถ่ายออกไป
ไคโตซาน  ผลิตจากสาร ไคติน ซึ่ง มีโครงสร้างคล้ายกับเซลลูโลส จัดเป็นใยอาหารชนิดหนึ่ง   ไคโตซาน มีคุณสมบัติในการแลกเปลี่ยนประจุกับสารอื่นได้ รวมถึงมีคุณสมบัติในการก่อเจลเมื่อละลายในกรด กล่าวคือ เมื่อ ไคโตซาน ละลายในกระเพาะอาหารซึ่งมีความเป็นกรดแล้ว จะให้ประจุบวกสูง ประกอบกับการพองตัว มีลักษณะเป็นเจล ที่สามารถดูดจับไขมันซึ่งมีประจุลบ ทำให้ไขมันไม่ถูกย่อย จึงไม่ถูกดูดซึมและถูกขับถ่ายออกไป
สรุปคุณสมบัติของ ไคโตซาน ( Chitosan ) • เป็นสารโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccaride) ที่ได้จากสารไคติน (Chitin) ซึ่งพบในส่วนเปลือกของสัตว์ที่มีเปลือกแข็งหุ้มภายนอก เช่น ปูและกุ้ง มีคุณสมบัติเป็นใยอาหาร (อ้างอิงที่1)
• เป็นสารที่ให้ผลในด้านการลดน้ำหนักจากธรรมชาติ  ลดภาวะไขมันในเลือดสูง อันเนื่องมาจากการบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง ด้วยกลไกการดักจับไขมัน (Lipids) ในทางเดินอาหาร ทำให้ไขมันถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายทางกระแสเลือด ได้ลดลง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก หรือผู้ที่ต้องการควบคุมระดับไขมันในเลือด รวมถึงผู้ที่มีความดันโลหิตสูงจากการที่มีระดับไขมันในเลือดสูง (อ้างอิงที่ 1-4)
>• มีงานวิจัยว่า  ไคโตซาน สามารถลดระดับโคเลสเตอรอล และไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด ได้จริง(อ้างอิงที่ 5, 6)
สรุปคุณสมบัติของโพลีเดกซ์โตส ( Polydextrose )
• เป็นกลุ่มของใยอาหาร มีประโยชน์ในการช่วยจับไขมันจากอาหาร ลดการดูดซึมน้ำตาล ช่วยให้ขับถ่ายสะดวก (อ้างอิงที่ 7)
•  โพลีเดกซ์โตสจะเป็นใยอาหารที่ละลายน้ำได้ เมื่อถูกน้ำจะพองตัวเป็นวุ้น ทำให้ขัดขวางการดูดซึมไขมัน มีประโยชน์ต่อการควบคุมระดับไขมัน (อ้างอิงที่ 7,8)
สรุปคุณสมบัติของผงจากกระบองเพชร  (Opuntia ficus indica)
• ผงจากกระบองเพชร มาจาก กระบองเพชร (Cactus) สายพันธุ์ Opuntia ficus indica ( โอพุนเทีย ไฟคัส อินดิกา ) มีคุณสมบัติ เป็นใยอาหาร 2 ชนิด คือ ใยอาหารประเภทละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ มีความสามารถในการจับตัวกับไขมันและสร้างเจลพิเศษ ที่มีคุณสมบัติสูงสามารถป้องกัน การย่อยสลาย และดูดซึมไขมัน ด้วย เอนไซม์ ไลเปส ( Lipase Enzyme )  ได้ เอนไซม์ ไลเปสเป็นเอนไซม์ สำหรับย่อยไขมัน  จะถูกกันไว้ด้วยเจลจากสารสกัดของกระบองเพชร  ทำให้เอนไซม์  ไม่สามารถเข้าถึงตัวไขมันได้ จึงไม่เกิดการย่อยและการดูดซึมไขมัน   ทำให้ไขมันจำนวนหนึ่ง ที่ไม่ถูกดูดซึม จะถูกส่งผ่านและขับถ่ายออก ทางลำไส้ใหญ่  มีงานวิจัยที่ศึกษาในมนุษย์ พบว่า การรับประทานสารสกัดจากกระบองเพชร Opuntia ficus indica  ในปริมาณ  1.6 กรัมต่อ  มื้ออาหาร สามารถลดระดับไขมันในเลือด ชนิด  แอลดีแอล โคเลสเตอรอล ( LDL Cholesterol )   และไตรกลีเซอร์ไรด์  (Triglyceride )  ได้จริง ส่งผลทำให้ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจลดลง นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยว่า เจล ที่สร้างจากสารสกัดจากกระบองเพชร Opuntia ficus indica สามารถ เคลือบกระเพาะอาหาร และป้องกันแผลในกระเพาะอาหาร จากการเหนี่ยวนำด้วย แอลกอฮอล์ ในสัตว์ทดลองได้ (อ้างอิงที่ 10)
เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า การปรับเปลี่ยนนิสัยในการบริโภคร่วมกับการออกกำลังกาย เป็นวิธีที่ดีและปลอดภัยที่สุดในการควบคุมน้ำหนัก หรือลดน้ำหนักในระยะยาว แต่วิธีการแบบนี้  มีความยากลำบากในการปฏิบัติให้ได้อย่างสม่ำเสมอ การใช้ยาลดความอ้วนก็จัดว่าเป็นยาอันตรายเนื่องจากยาลดความอ้วนนั้น จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ซึ่งการใช้ยานั้นต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ ดังนั้นจึงมีทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคอีกทางคือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลุ่มที่มีคุณสมบัติในการลดหรือควบคุมน้ำหนัก อย่างปลอดภัย ไม่มีผลต่อจิตประสาท และระบบสมองนั้นมีมากมายหลายชนิด เช่น เพิ่มการเผาผลาญ ของร่างกาย ได้แก่ สารสกัดจากชาเขียว และน้ำมันดอกคำฝอย  (CLA),   ลดการดูดซึมแป้งด้วยกลไกการ block หรือยับยั้งเอนไซม์ที่ใช้ย่อยแป้ง (สารสกัดจากถั่วขาว)  และกลุ่มที่ออกฤทธิ์อยู่เฉพาะในทางเดินอาหารโดยดักจับเอาไขมันในอาหารที่เรารับประทานเข้าไป  ได้แก่  Chitosan ใยอาหาร และสารสกัดจากกระบองเพชร Opuntia ficus indica นั่นเอง
เนื่องจาก ไคโตซานและสารสกัดจากกระบองเพชร Opuntia ficus indica มีผลต่อการดูดซึมไขมัน จึงไม่ควรรับประทาน พร้อมยาที่แพทย์สั่ง เพราะอาจจะมีผลรบกวนการดูดซึมยาบางชนิดที่จะต้องละลายในไขมัน และไม่ควรรับประทานในผู้ป่วยเบาหวาน เพราะจะทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำและเป็นอันตรายได้  กรณีที่มีโรคประจำตัวอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์ ก่อนรับประทาน

เอกสารอ้างอิง
1. บัวบก  :  อรนุช  โชคชัยเจริญพร   จุลสารข้อมูลสมุนไพร  14 (2) : 2540
2. ผู้จัดการออนไลน์ 3 พ.ค. 47 16:03:23 http://www.manager.co.th/qol/viewNews.asp?newsid=4759613930582"
3. . A double-blind, placebo-controlled study on the effects of Gotu Kola (Centella asiatica) on acoustic startle response in healthy subjects. J Clin Psychopharmacol 2000 Dec;20(6):680-4
4. A double-blind, placebo-controlled study on the effects of Gotu Kola (Centella asiatica) on acoustic startle response in healthy subjects. J Clin Psychopharmacol 2000 Dec;20(6):680-4
5. Evaluation of treatment of diabetic microangiopathy with total triterpenic fraction of Centella asiatica: a clinical prospective randomized trial with a microcirculatory model. Angiology 2001 Oct;52 Suppl 2:S49-54
6. Treatment of diabetic microangiopathy and edema with total triterpenic fraction of Centella asiatica: a prospective, placebo-controlled randomized study. Angiology 2001 Oct;52 Suppl 2:S27-31 .
7. Microcirculatory effects of total triterpenic fraction of Centella asiatica in chronic venous hypertension: measurement by laser Doppler, TcPO2-CO2, and leg volumetry. Angiology 2001 Oct;52 Suppl 2:S45-8 .
8. Flight microangiopathy in medium- to long-distance flights: prevention of edema and microcirculation alterations with total triterpenic fraction of Centella asiatica. Angiology 2001 Oct;52 Suppl 2:S33-7 .
9. MacKay D. Hemorrhoids and varicose veins: a review of treatment options. Altern Med Rev 2001 Apr;6(2):126-40 .
10. Veerendra Kumar MH, Gupta YK. Effect of different extracts of Centella asiatica on cognition and markers of oxidative stress in rats. J Ethnopharmacol 2002 Feb;79(2):253-60 .
11. Effect of Centella asiatica on cognition and oxidative stress in an intracerebroventricular streptozotocin model of Alzheimer's disease in rats. Clin Exp Pharmacol Physiol 2003 May-Jun;30(5-6):336-42 .
12. Antioxidative behaviour of Malaysian plant extracts in model and food oil systems. Asia Pac J Clin Nutr 2004 Aug;13(Suppl):S72